ที่งาน Digital Freedom Festival ประจำปีของประเทศลัตเวีย พอจ. ได้รับเชิญไปสอนสมาธิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่ง พอจ. ได้แนะนำว่า ในการทำงานนั้นทำงานหนักอย่างเดียว (working hard) มันไม่พอ มันต้องทำงานอย่างชาญฉลาด คือใช้สมองในการทำงานด้วย (working smart) และการจะทำงานให้ฉลาดนั้น จะต้องมีระบบและระเบียบในการทำงาน แต่คนเราหลายๆ คนมักจะลืมนึกถึงการจัดระเบียบในการดำรงชีวิต ซึ่งรวมไปถึงการจัดห้องนอน ทำความสะอาดห้องน้ำ จัดไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รก ฯลฯ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการจัดเอกสาร จัดลำดับความสำคัญของการทำงาน และจัดเวลาในที่สุด ผู้ที่จัดระเบียบไม่ได้ ใจจะรก และจะเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานแบบรวนๆ เสร็จก็ช่างไม่เสร็จก็ช่าง การทำสมาธิจึงเป็นการจัดระเบียบใจให้เกิดความชัดเจน (clarity) และเพิ่มพื้นที่ให้ใจมีความสุขมากขึ้น และการทำงานอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กันนั้น จะเป็น Digital Freedom ที่แท้จริง จากนั้นจึงนำปฏิบัติธรรม ซึ่งผู้ร่วมปฏิบัติธรรมกว่า 40 ท่านต่างก็รู้สึกประหลาดใจว่าเวลาผ่านไปแค่นิดเดียวแม้จะนั่งสมาธิไปถึง 30 นาที หลายๆ ท่านรู้สึกเบา สัมผัสได้ถึงกระแสความอบอุ่นจากภายใน และผ่อนคลายมากจากการทำสมาธิ บ้างก็แบ่งปันว่าตั้งแค่ที่เคยปฏิบัติธรรมกับ พอจ. ในปีก่อนๆ ก็ได้ลองทำสมาธิมาตลอด และก็ได้สัมผัสประสบการณ์ต่างๆ เช่น ตัวหาย ตัวขยาย หรือลมหายใจหายไปเป็นต้น In the Digital Freedom Festival, which is an annual event of Latvia, I was invited for the 3rd time in a row to teach meditation for higher working efficiency. I explained that this is not about working harder but smarter. We’re going to work less but achieve more. But in order to do so, there must be a systematic way of working. This is what many people lack. They have so many things to do in life and unable to organise their living including cleaning, tidying up and organise their bedroom, bathroom, working space or even files in their computer resulting in a huge mess in their working style. They will unable to organise the files, their working priority and their time. Those who lack organisation typically have an unorganised mind that works the same way as a malfunctioning computer without proper reliability or even functionality. Meditation is there an effective way to organise our thoughts, create more clarity, give more space and bring more happiness to the mind. And this is thus a true digital freedom we who live in a digital era look for. After the meditation practice, all participants felt relaxed and surprised that the meditation time was actually 30 minutes. They felt light, peace and warmth from within. Some shared that they had started regular meditation practices since my workshop in the previous year and got different experiences like body disappearance, expansion, or refined breathing. #peace #workingefficiency #workingsmart #digitalfreedom #dff #digitalfreedomfestival #relaxation #mindfulness #meditation #europe #latvia #riga

https://timeline.line.me/post/_dR7hOckh6QO6pliGBN_sI8lEeJ0M6H7_zrBGBzw/1157484387005083779